ซิลลา-คาริบดีส
“between Scylla and Charybdis”
“between the rock and the whirlpool”
“between a rock and a hard place”
สุภาษิตฝรั่ง แปลเป็นไทยได้ว่า “หนีเสือปะจระเข้” ซึ่งมีที่มาจากตำนานอสุรกาย 2 ตนคือ ซิลลา และ คาริบดีส ทั้งคู่อยู่ที่ช่องแคบเมสสินา ในเกาะซิชิลี
กล่าวคือ…
ณ ช่องแคบเมสสินา มีวังน้ำวนขนาดใหญ่ชื่อว่า คาริบดิส ด้วยกระแสน้ำอันเชี่ยวกราก ได้ทำให้เรือลำใหญ่น้อยที่หลงผ่านเข้าไป จมลงเป็นอันมาก และหากว่าเรือลำใดพยายามแล่นให้ห่างออกจากคาริบดิส ก็จะชนเข้ากับโขดหินชื่อ ซิลลาอับปางลงอีกเช่นกัน เพราะซิลลาและคาริบดีส อยู่ห่างกันเพียงแค่ระยะยิงธนูถึงเท่านั้น
กำเนิดของโขดหินซิลลา มีอยู่ว่า… ชายชาวประมงชื่อ กลอคัส (Glaucus) ได้ออกหาปลา แล้วจอดเรือพักที่เกาะร้างแห่งหนึ่งเพื่อคัดแยกปลา ครั้นพอเทปลาที่ส่วนใหญ่ตายแล้วลงบนพื้นหญ้า ปลาทุกตัวก็กลับมีชีวิตและตะเกียกตะกายกลับลงน้ำไป กลอคัสเข้าใจว่าเป็นเพราะต้นหญ้าพวกนั้น จึงลองถอนหญ้าขึ้นมากินกำหนึ่ง ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกกระวนกระวายอยากลงไปในน้ำ กลอคัสจึงกระโดดลงน้ำไป
เทพโอเชียนัส (Oceanus : เทพไตตันผู้ครองมหาสมุทร รุ่นก่อนโพเซดอน ซึ่งในสงครามที่ไตตันสู้รบกับซีอุส
โอเชียนัสยอมเข้าพวกกับซีอุส จึงไม่ถูกยึดอำนาจไปทั้งหมด โดยโพเซดอนจะครองทะเลเมอดิเตอเรเนียน และแม่น้ำลำธาร
ส่วนทะเลนอกเหนือจากเขตนั้น ยังเป็นของโอเชียนัส) ก็ได้ให้การต้อนรับและแต่งตั้งกลอคัสเป็นเทพแห่งน้ำอีกองค์หนึ่ง โดยการนำสาย น้ำมาชำระความเป็นมนุษย์ออก เมื่อกลายเป็นเทพแล้ว กลอคัสก็มีเรือนผมสีเขียวน้ำทะเล และมีร่างกายท่อนล่างเป็นอย่างปลา
ต่อมากลอคัสก็ได้พบกับหญิงสาวชื่อ ซิลลา (Scylla : บางที่ก็ว่าเป็นอัปสร ธิดาของพอร์ซิส (Phorcys : เทพแห่งน้ำ)
(กี่องค์ แล้วเนี่ย เทพแห่งน้ำเยอะจริงๆ)) นางลงมาเล่นน้ำ กลอคัสเห็นเข้าก็หลงรัก แต่ซิลลาตกใจกลัวในรูปร่างประหลาดของกลอคัส นางจึงวิ่งหนีขึ้นไปบนฝั่ง กลอคัสไม่สามารถตามขึ้นไปได้ จึงไปปรึกษา เซอร์ซี (Circe) แม่มดแห่งท้องทะเล เพื่อให้นางช่วยเหลือ
แต่เซอร์ซีกลับหลงรักกลอคัส นางพยายามเกลี้ยกล่อมให้ลืมซิลลาเสีย แต่ก็ไม่เป็นผล เซอร์ซีจึงเอาน้ำพิษร้ายไปเทไว้
ณ ตำแหน่งที่ซิลลาชอบมาเล่นน้ำ เมื่อซิลลากลับลงมาเล่นน้ำที่เดิม ก็ถูกพิษกลับกลายเป็นอสุรกาย มีหัวและคอถึง 6 หัวลำคอเหมือนงู หัวเหมือนหมาป่า มีฟัน 3 แถว และมีขาถึง 12 ข้าง แต่ถูกตรึงอยู่ ณ ที่นั้น ไม่สามารถขยับไปไหนได้ ดักคอยเล่นงานเรือที่สัญจรผ่านไปมา ต่อมาก็กลับกลายเป็นโขดหินไป (บางที่กล่าวว่า เฮรากลิส (Heracles : ชื่อกรีก) หรือ เฮอร์คิวลิส (Hercules :ชื่อโรมัน) ผ่านมาและได้ฆ่าซิลลา นางจึงกลับกลายเป็นโขดหิน)
แต่อีกตำราหนึ่งกล่าวว่า นางซิลลาเป็นอนุภรรยาของโพเซดอน ด้วยความหึงหวงทำให้เทวีแอมพริติตี (Amphitrite)ชายาของโพเซดอน เอายาพิษมาโปรยตรงบริเวณนั้น ทำให้ซิลลากลายเป็นอสุรกายไป
ส่วนเรื่องของ คาริบดีส (Charybdis) มีอยู่ค่อนข้างสั้น กล่าวว่านางเป็นนางอัปสรธิดาของ โพเซดอน และ เจ้าแม่ธรณี จี
(Ge, Gaia, Gaea) แต่อีกตำรากล่าวว่านางเป็นหนึ่งในหมู่อัปสรนีเรียด (Nereids) ธิดา 50 องค์ของเทพนีรูส (Nereus) เทพแห่ง
ทะเลอีเจียน
นางได้ทำให้น้ำท่วมขึ้นไปบนแผ่นดิน เพื่อขยายอาณาเขตของบิดานาง (บางที่กล่าวว่า นางไปขโมยวัวของซีอุส) ซีอุสโกรธ
จึงใช้สายฟ้าฟาดนางถึง แก่ความตาย แล้วสาปให้เป็นอสุรกายที่มีปากขนาดใหญ่ ดูดและพ่นน้ำปริมาณมหาศาลวันละ 3 ครั้ง ทำให้เกิด
เป็นวังวนคาริบดีสขึ้น ใกล้ๆกับที่สถิตของซิลลานั่นเอง
จรกา